วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

ว่าด้วยเรื่อง"ความฝัน"

ว่าด้วยเรื่อง"ความฝัน"


หลายคนล้มตัวลงนอนก็จะเริ่มฝัน แต่ไม่รู้ว่าความฝันคืออะไรและทำไมจึงต้องฝัน เมื่อตื่นนอนก็คิดต่อเนื่องใหญ่โตถึงกับวิเคราะห์อนาคตและโชคชะตาราศีไปเลย
      ความรู้วิทยาศาสตร์ในด้านจิตวิทยาบอกเราว่า ความฝันคือความคิดตามธรรมชาติในยามหลับหรือความคิดที่ค้างในยามหลับ ความหมายก็คือสภาพร่างกายของคนเราหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเลือดลม เกิดอาการบางอย่าง เช่นรู้สึกหิวน้ำขึ้นมาก็อาจฝันไปว่าเดินอยู่ในทะเลทรายและกระหายน้ำเหลือ เกิน ระบบในร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อ ฯลฯ และสภาพร่างกายทั้งหมดทำให้เราเกิดความคิดอย่างนั้นขึ้น ซึ่งเป็นความคิดธรรมชาติในยามหลับ
      มีคนจำนวนมากเชื่อว่า ความฝันคือลางบอกเหตุ สามารถใช้เป็นข้อมูลในการพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง ความเชื่อเช่นนี้ทำให้หลายคนให้ความสำคัญกับความฝันขนาดหนัก จนบางครั้งเกิดเป็นความวิตกทุกข์ร้อน กินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อฝันไม่ดี
      นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่า ความฝันคือสิ่งที่คั่งค้างอยู่ในใจของเรา ส่วนมากก็เป็นเรื่องในชีวิตประจำวัน เช่น เราคิดอยู่ในใจว่าต้องไปร่วมงาน งานหนึ่ง เป็นความคิดวูบขึ้นมาแต่ไม่ถึงกับจริงจังหรือใส่ใจคิด ขณะเดียวกันความคิดวูบนั้นก็ยังไม่จบสิ้น เมื่อนอนหลับก็ยังเกิดข้อถกเถียงกับตนเองว่าควรไปร่วมงานหรือไม่ เสียงคัดค้านดังอยู่ในสมอง เสียงบ่นก็อยู่ในสมอง ฯลฯ ความฝันจึงไม่ได้บอกเหตุอะไร เพราะเป็นเพียงความคิดของเราเองที่ยังคิดคงค้างอยู่ในใจแต่ยังไม่เสร็จสรรพ ความฝันนั้นก็ช่วยให้จบเรื่องไป ถ้าจะเป็นลางบอกเหตุอะไร ก็เป็นการบอกกล่าวจากตัวเราเองว่าต้องการอะไรหรือขาดอะไรไปบ้าง รวมไปถึงความวิตกกังวลต่างๆ
      ไม่ใช่ปาฏิหาริย์จากสิ่งอื่นเลยครับ และคงเคยได้ยินใครบางคนพูดว่า แหม...วันนี้ฝันดีได้เลขเด็ด ถ้าอย่างนั้นความฝันก็ย่อมมีความสำคัญขนาดหนักทีเดียว เพราะช่วยให้ชีวิตสุขสบายทางวัตถุโดยไม่ต้องเหนื่อยยากอะไรเลย
      เรื่องของคนชอบตีความฝันเป็นตัวเลข เพื่อไปซื้อลอตเตอรี่หรือแทงหวย ก็เป็นความหวังอย่างหนึ่งของมนุษย์ เป็นเรื่องความอยากรวย อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงนำความฝันที่เป็นสัญลักษณ์ออกมาตีความ ความฝันนั้นเป็นสัญลักษณ์ก็จริง แต่เป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการเล่นหวยเลย แต่คนเราลองจะเชื่อก็โน้มน้าวตัวเองให้เชื่อได้ทั้งนั้น พยายามสรรหาเหตุผลทุกอย่างมาอ้างมาสนับสนุนความเชื่อของตัวเอง อะไรที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องบังเอิญทั้งนั้น
      พูดอย่างง่ายที่สุดได้ว่า ความฝันไม่ใช่คนอื่น ความฝันไม่ใช่สิ่งอื่น ความฝันคือตัวเราเท่านั้นเอง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น